เก็งข้อสอบนักธรรมชั้นเอก วิชาวินัยบัญญัติ ปีพ.ศ.2568

เก็งข้อสอบธรรมสนามหลวง นักธรรมชั้นเอก วิชาวินัยบัญญัติ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๘ มีทั้งหมด ๓๐ ข้อ ดังนี้ |
|
---|---|
๑. | มูลเหตุที่ทําให้เกิดสังฆกรรมมีกี่อย่าง ? อะไรบ้าง ? |
---|---|
ต/ |
มูลเหตุที่ทำให้เกิดสังฆกรรมมี ๒ อย่าง ฯ คือ ๑. มีภิกษุบริษัทเพิ่มจํานวนมากขึ้น ๒. มีพระพุทธประสงค์เพื่อให้สงฆ์เป็นใหญ่ในการบริหารหมู่คณะ ฯ |
๒. | สังฆกรรมมีอะไรบ้าง ? สังฆกรรมอะไรที่สงฆ์จตุวรรคทำไม่ได้ ? |
ต/ |
สังฆกรรม มี ๔ คือ ๑. อปโลกนกรรม ๒. ญัตติกรรม ๓. ญัตติทุติยกรรม ๔. ญัตติจตุตถกรรม ฯ ปวารณา ให้ผ้ากฐิน อุปสมบท และอัพภาน สงฆ์จตุวรรคทำไม่ได้ ฯ |
๓. | สังฆกรรม ๔ นั้น อย่างไหนต้องทําในสีมา อย่างไหนทํานอกสีมาได้ ? |
ต/ |
ญัตติกรรม ญัตติทุติยกรรม และญัตติจตุตถกรรม ต้องทําในสีมาเท่านั้น อปโลกนกรรม ทํานอกสีมาได้ ฯ |
๔. | สีมามีกี่ประเภท ? วิสุงคามสีมา จัดเข้าในประเภทไหน ? |
ต/ |
สีมา มี ๒ ประเภท คือ พัทธสีมา อพัทธสีมา ฯ วิสุงคามสีมา เมื่อสงฆ์ยังไม่ผูก จัดเป็นอพัทธสีมา ครั้นสงฆ์ผูกแล้ว จัดเป็นพัทธสีมา ฯ |
๕. | สีมาสังกระ คืออะไร ? สงฆ์จะทำสังฆกรรมในสีมาเช่นนั้นได้หรือไม่อย่างไร ? |
ต/ |
สีมาสังกระ คือ สีมาที่สมมติคาบเกี่ยวกันระหว่างสีมาที่สมมติไว้เดิมและสีมาที่สมมติขึ้นใหม่ ฯ สงฆ์ทำสังฆกรรมในสีมาที่สมมติไว้เดิมได้ แต่ทำในสีมาที่สมมติขึ้นใหม่ไม่ได้ ฯ |
๖. | เจ้าอธิการตามพระวินัย หมายถึงใคร ? สงฆ์พึงสวดสมมติเจ้าอธิการด้วยกรรมวาจาประเภทใด ? |
ต/ |
เจ้าอธิการตามพระวินัย หมายถึง ภิกษุผู้ได้รับสมมติจากสงฆ์ให้เป็นเจ้าหน้าที่ทำการสงฆ์นั้น ๆ ฯ สงฆ์พึงสวดสมมติด้วยญัตติทุติยกรรม ฯ |
๗. | เจ้าอธิการที่สงฆ์สมมติให้เป็นเจ้าหน้าที่ทำการสงฆ์ ในพระวินัยมี ๕ แผนก อะไรบ้าง ? |
ต/ |
ในพระวินัยมี ๕ แผนก ๑) เจ้าอธิการแห่งจีวร ๒) เจ้าอธิการแห่งอาหาร ๓) เจ้าอธิการแห่งเสนาสนะ ๔) เจ้าอธิการแห่งอาราม ๕) เจ้าอธิการแห่งคลัง ฯ |
๘. | ภิกษุผู้ควรได้รับสมมติให้เป็นภัตตุทเทสกะ ต้องประกอบด้วยคุณสมบัติเช่นไร ? |
ต/ |
ต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังนี้ คือ ๑. เว้นอคติ ๔ คือ ฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ ภยาคติ ๒. รู้จักภัตรที่ควรแจกหรือมิควรแจก ๓. รู้จักลำดับที่พึงแจก ฯ |
๙. | กฐิน มีชื่อมาจากอะไร ? ผ้าที่เป็นกฐินได้มีอะไรบ้าง ? |
ต/ |
กฐิน มีชื่อมาจากไม้สะดึงที่ลาดหรือกางออกสำหรับขึงจีวรเพื่อเย็บ ฯ ผ้าที่เป็นกฐินได้มี ๑. ผ้าใหม่ ๒. ผ้าเทียมใหม่คือผ้าฟอกสะอาดแล้ว ๓. ผ้าเก่า ๔. ผ้าบังสุกุล ๕. ผ้าที่ตกตามร้านตลาดซึ่งเขานำมาถวายสงฆ์ ฯ |
๑๐. | ผ้าที่ไม่ทรงอนุญาตให้ใช้เป็นผ้ากฐิน ได้แก่ผ้าเช่นไรบ้าง ? |
ต/ |
ผ้าที่ไม่ทรงอนุญาตให้ใช้เป็นผ้ากฐิน คือ ๑. ผ้าที่ไม่ได้เป็นสิทธิ์ เช่น ผ้าที่ขอยืมเขามา ๒. ผ้าที่ได้มาโดยอาการอันมิชอบ คือ ทำนิมิตได้มา พูดเลียบเคียงได้มา และผ้าเป็นนิสสัคคีย์ ๓. ผ้าที่ได้มาโดยบริสุทธิ์ แต่เก็บค้างคืนไว้ ฯ |
๑๑. | การกรานกฐิน คืออะไร ? อธิบายพอเข้าใจ |
ต/ | กรานกฐิน คือ เมื่อมีผ้าเกิดขึ้นแก่สงฆ์ในเดือนท้ายฤดูฝนพอจะทำเป็นไตรจีวร ผืนใดผืนหนึ่งได้ สงฆ์พร้อมใจกันยกให้แก่ภิกษุรูปหนึ่ง ภิกษุผู้ได้รับผ้านั้นนำไปทำเป็นไตรจีวร ผืนใดผืนหนึ่งให้แล้วเสร็จในวันนั้น แล้วมาบอกแก่ภิกษุผู้ยกผ้านั้นให้เพื่ออนุโมทนา ภิกษุเหล่านั้นอนุโมทนา ทั้งหมดนี้ คือ การกรานกฐิน ฯ |
๑๒. | ผู้จะเข้ามาอุปสมบทเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนาต้องประกอบด้วยคุณสมบัติอะไรบ้าง ? |
ต/ |
ประกอบด้วยคุณสมบัติ ๕ ประการ คือ ๑. เป็นชาย ๒. มีอายุครบ ๒๐ ปี ๓. ไม่เป็นมนุษย์วิบัติ เช่น ถูกตอน หรือเป็นกะเทย เป็นต้น ๔. ไม่เคยทำอนันตริยกรรม ๕. ไม่เคยต้องปาราชิก หรือไม่เคยเข้ารีตเดียรถีย์ทั้งที่เป็นภิกษุ ฯ |
๑๓. | ในอุปสมบทกรรม อภัพพบุคคล หมายถึงใคร ? จำแนกโดยประเภทมี อะไรบ้าง ? |
ต/ |
หมายถึงบุคคลที่ทรงห้ามไม่ให้อุปสมบท ฯ มี ๓ คือ ๑. เพศบกพร่อง ๒. ประพฤติผิดพระธรรมวินัย ๓. ประพฤติผิดต่อกำเนิดของตน คือฆ่ามารดาบิดา ฯ |
๑๔. | สงฆ์ผู้จะให้การอุปสมบทแก่กุลบุตร ในพระวินัยมีกําหนดจํานวนภิกษุไว้อย่างไร ? ถ้าไม่ครบตามจํานวนนั้น จัดเป็นวิบัติอะไร ? |
ต/ |
มีกําหนดอย่างนี้ คือ ในมัธยมชนบท ๑๐ รูปเป็นอย่างต่ำ ในปัจจันตชนบท ๕ รูป เป็นอย่างต่ำ ฯ จัดเป็นปริสวิบัติ |
๑๕. | การบอกนิสสัย ๔ และอกรณียะ ๔ บอกในเวลาใด ? และใครเป็นผู้บอก ? |
ต/ |
ท่านให้บอกในลำดับแห่งอุปสมบทแล้ว ห้ามไม่ให้บอกก่อนหน้าอุปสมบท ฯ อุปัชฌายะบอกก็ได้ กรรมวาจาจารย์ หรืออนุสาวนาจารย์บอกก็ได้ ฯ |
๑๖. | วิวาทาธิกรณ์ คืออะไร ? ระงับได้ด้วยอธิกรณสมถะข้อใดบ้าง ? |
ต/ |
วิวาทาธิกรณ์ คือ การเถียงกันปรารภพระธรรมวินัย ฯ ระงับได้ด้วย สัมมุขาวินัย และเยภุยยสิกา ฯ |
๑๗. | ภิกษุผู้ก่อวิวาทาธิกรณ์ อย่างไรชื่อว่า ปรารถนาดี อย่างไรชื่อว่า ปรารถนาเลว ? |
ต/ |
ผู้ก่อวิวาทเพราะเห็นแก่พระธรรมวินัย (ปราศจากโลภะ โทสะ โมหะ) ชื่อว่าทำด้วยปรารถนาดี ผู้ก่อวิวาทด้วยทิฏฐิมานะ แม้รู้ว่าผิดก็ขืนทำ (ประกอบด้วย โลภะ โทสะ โมหะ) ชื่อว่าทำด้วยปรารถนาเลว ฯ |
๑๘. | อนุวาทาธิกรณ์เช่นไร อันภิกษุจะพึงยกขึ้นพิจารณาตัดสินได้ ? |
ต/ |
อนุวาทาธิกรณ์นั้นต้องเป็นเรื่องมีมูล คือ ๑) เรื่องที่ได้เห็นเอง ๒) เรื่องที่ได้ยินเองหรือมีผู้บอกและเชื่อว่าเป็นจริง ๓) เรื่องที่เว้นจาก ๒ สถานนั้น แต่รังเกียจโดยอาการ ฯ |
๑๙. | สัมมุขาวินัยมีองค์เท่าไร ? อะไรบ้าง ? |
ต/ |
สัมมุขาวินัย มีองค์ ๔ ฯ คือ ๑) ในที่พร้อมหน้าสงฆ์ ๒) ในที่พร้อมหน้าธรรม ๓) ในที่พร้อมหน้าวินัย ๔) ในที่พร้อมหน้าบุคคล ฯ |
๒๐. | วุฏฐานวิธี หมายถึงอะไร ? ในการทำวุฏฐานวิธีแต่ละอย่างนั้นต้องการสงฆ์จำนวนเท่าไรเป็นอย่างน้อย ? |
ต/ |
วุฏฐานวิธี หมายถึง ระเบียบวิธีเป็นเครื่องออกจากอาบัติสังฆาทิเสส ฯ อัพภาน ต้องการสงฆ์ ๒๐ รูป เป็นอย่างน้อย นอกนั้นต้องการสงฆ์ ตั้งแต่ ๔ รูป ขึ้นไป ฯ |
๒๑. | อุกเขปนียกรรม และ นิยสกรรม สงฆ์พึงลงแก่ภิกษุประพฤติผิดธรรมวินัยอย่างไร ? |
ต/ |
ประพฤติผิดอย่างนี้ คือ อุกเขปนียกรรม พึงลงแก่ภิกษุผู้ ไม่เห็นอาบัติ ไม่ทำคืนอาบัติหรือไม่สละทิฏฐิบาป นิยสกรรม พึงลงแก่ภิกษุผู้ มีอาบัติมาก หรือคลุกคลีกับคฤหัสถ์ด้วยการคลุกคลีอันไม่ควร ฯ |
๒๒. | พระอรรถกถาจารย์แสดงลักษณะปกปิดอาบัติสังฆาทิเสสไว้เป็น ๕ คู่ อย่างไรบ้าง ? |
ต/ |
ท่านแสดงไว้ ๕ คู่ ดังนี้ ๑. เป็นอาบัติ และรู้ว่าเป็นอาบัติ ๒. เป็นปกตัตตะ และรู้ว่าเป็นปกตัตตะ ๓. ไม่มีอันตราย และรู้ว่าไม่มีอันตราย ๔. อาจอยู่ และรู้ว่าอาจอยู่ ๕. ใคร่จะปิด และปิดไว้ ฯ |
๒๓. | กิจจาธิกรณ์ และนิคคหะ คืออะไร ? |
ต/ |
กิจจาธิกรณ์ คือ กิจอันจะพึงทําด้วยประชุมสงฆ์ นิคคหะ คือ การข่ม เป็นกิจอย่างหนึ่งแห่งผู้ปกครองหมู่ ฯ |
๒๔. | ในทางพระวินัย การคว่ำบาตร หมายถึงอะไร ? และจะหงายบาตรได้เมื่อไร ? |
ต/ |
การคว่ำบาตร หมายถึง การไม่ให้คบหาสมาคมด้วยลักษณะ ๓ ประการ คือ ๑. ไม่รับบิณฑบาตของเขา ๒. ไม่รับนิมนต์ของเขา ๓. ไม่รับไทยธรรมของเขา ฯ เมื่อผู้ถูกคว่ำบาตรนั้นเลิกกล่าวติเตียนพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นต้นนั้นแล้ว กลับประพฤติดี พึงหงายบาตรแก่เขาได้ ฯ |
๒๕. | นาสนา คืออะไร ? บุคคลเช่นไรที่ทรงอนุญาตให้นาสนา ? |
ต/ |
นาสนา คือ การยังบุคคลผู้ไม่สมควรถือเพศภิกษุและสามเณรให้สละเพศเสีย ฯ บุคคลที่ทรงอนุญาตให้นาสนามี ๓ ประเภท คือ ๑. ภิกษุต้องอันติมวัตถุแล้วยังปฏิญญาตนเป็นภิกษุ ๒. บุคคลผู้อุปสมบทไม่ขึ้น ได้รับอุปสมบทแต่สงฆ์ ๓. สามเณรผู้ประกอบด้วยองค์ ๑๐ ข้อใดข้อหนึ่ง เช่น เป็นผู้มัก ผลาญชีวิตสัตว์ เป็นต้น ฯ |
๒๖. | ที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ และที่ศาสนสมบัติกลาง ได้แก่สถานที่เช่นไร ? |
ต/ |
ที่วัด ได้แก่ ที่ตั้งวัดตลอดจนเขตของวัดนั้น ที่ธรณีสงฆ์ ได้แก่ ที่ซึ่งเป็นสมบัติของวัด ที่ศาสนสมบัติกลาง ได้แก่ ที่ซึ่งเป็นทรัพย์สินของพระศาสนาอันมิใช่ของวัดใดวัดหนึ่ง ฯ |
๒๗. | เจ้าอาวาส หมายถึงใคร ? ภิกษุผู้จะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดที่ไม่ใช่พระอารามหลวงต้องมีคุณสมบัติโดยเฉพาะอะไรบ้าง ? |
ต/ |
เจ้าอาวาส หมายถึง พระภิกษุผู้ได้รับแต่งตั้งตามกฎมหาเถรสมาคมให้เป็นพระสังฆาธิการปกครองวัดใดวัดหนึ่ง ฯ คุณสมบัติเฉพาะ คือ ๑. มีพรรษาพ้น ๕ ๒. เป็นผู้ทรงเกียรติคุณเป็นที่เคารพนับถือของคฤหัสถ์ และ บรรพชิตในถิ่นนั้น ฯ |
๒๘. | พระราชบัญญัติคณะสงฆ์มาตรา ๓๗ ระบุหน้าที่เจ้าอาวาส ไว้กี่อย่าง ? อะไรบ้าง ? |
ต/ |
ระบุไว้ ๔ อย่าง ฯ คือ ๑. บํารุงรักษาวัด จัดกิจการ และศาสนสมบัติของวัดให้เป็นไปด้วยดี ๒. ปกครองและสอดส่องให้บรรพชิต และคฤหัสถ์ที่มีที่อยู่หรือพํานักอาศัยอยู่ในวัดนั้นปฏิบัติตามพระธรรมวินัย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคําสั่งของมหาเถรสมาคม ๓. เป็นธุระในการศึกษาอบรมและสั่งสอนพระธรรมวินัยแก่บรรพชิตและคฤหัสถ์ ๔. ให้ความสะดวกตามสมควรในการบําเพ็ญกุศล ฯ |
๒๙. | กรรมการมหาเถรสมาคมซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้งพ้นจากตำแหน่งเมื่อใด ? |
ต/ |
พ้นจากตำแหน่งเมื่อ ๑. มรณภาพ ๒. พ้นจากความเป็นพระภิกษุ ๓. ลาออก ๔. สมเด็จพระสังฆราชมีพระบัญชาให้ออก ๕. อยู่ครบวาระ ๒ ปี ฯ |
๓๐. | ผู้ใดใส่ความคณะสงฆ์หรือคณะสงฆ์อื่นอันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียหรือความแตกแยก มีโทษอย่างไร ? |
ต/ | ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ฯ |