เก็งข้อสอบนักธรรมชั้นตรี วิชาธรรมวิภาค ปีพ.ศ.๒๕๖๖
 
- 
          ธรรมมีอุปการะมากมีอะไรบ้าง ? ที่ว่ามีอุปการะมาก นั้นเพราะเหตุไร ?
 ตอบ มี ๑. สติ ความระลึกได้ และ ๒. สัมปชัญญะ ความรู้ตัว ฯ
 เพราะว่าทำให้เป็นผู้ไม่ประมาทในการทำกิจการงานใดๆ และเป็นอุปการะให้ธรรมเหล่าอื่นเกิดขึ้น.
- 
คนที่ทำอะไรมักพลั้งพลาด เพราะขาดธรรมอะไร ?
 ตอบ เพราะขาดสติ ความระลึกได้ก่อนแต่จะทำและขาดสัมปชัญญะ ความรู้ตัวในขณะทำ ฯ
- 
โลกเดือดร้อนวุ่นวายในปัจจุบันนี้ เพราะขาดธรรมอะไร ?
 ตอบ เพราะขาดธรรมคุ้มครองโลก ๒ อย่าง คือ
 ๑. หิริ ความละอายบาป
 ๒. โอตตัปปะ ความกลัวบาป ฯ
- 
หิริและโอตตัปปะ ได้ชื่อว่าธรรมเป็นโลกบาลเพราะเหตุไร ?
 ตอบ เพราะเป็นคุณธรรมทำบุคคลให้รังเกียจ และเกรงกลัวต่อบาปทุจริต ไม่กล้าทำความชั่วทั้งในที่ลับและที่แจ้ง ฯ
- 
พบงูพิษแล้วสดุ้งกลัวว่าจะถูกกัด จัดเป็นโอตตัปปะได้หรือไม่ ? เพราะเหตุใด ?
 ตอบ ไม่ได้ ฯ เพราะโอตตัปปะ หมายความว่าความเกรงกลัวต่อบาป ฯ
- 
ในโลกนี้มีบุคคลประเภทใดบ้างที่พระพุทธศาสนาสอนว่าหาได้ยาก ?
 ตอบ มี ๒ ประเภท คือ
 ๑) บุพพการี บุคคลผู้ทำอุปการะก่อน
 ๒) กตัญญูกตเวที บุคคลผู้รู้อุปการะที่ท่านทำแล้วและทำตอบแทนท่าน ฯ
- 
พระพุทธเจ้าทรงเป็นบุพพการีของพุทธบริษัอย่างไร ?
 ตอบ พระพุทธเจ้าทรงกระทำอุปการะแก่พุทธบริษัทก่อน ด้วยการทรงแนะนำสั่งสอน ให้รู้ดีรู้ชอบตามพระองค์ เพื่อให้ได้บรรลุประโยชน์ ทั้ง ๓ คือ ประโยชน์ในโลกนี้ ประโยชน์ ในโลกหน้า และประโยชน์อย่างยิ่งคือพระนิพพาน จึงชื่อว่าเป็นบุพพการี ฯ
- 
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ได้ชื่อว่า รัตนะ เพราะเหตุไร ?
 ตอบ เพราะเป็นของมีคุณค่าและหาได้ยาก เหมือนเพชรนิลจินดามีค่ามาก นำประโยชน์ และความสุขมาให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ ฯ
- 
รัตนะ ๓ อย่าง คืออะไรบ้าง ? รัตนะที่ ๒ มีคุณอย่างไร ?
 ตอบ คือ พระพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ ฯ
 ย่อมรักษาผู้ปฏิบัติธรรมไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว ฯ
- 
พระพุทธเจ้า คือใคร ? ทรงสั่งสอนเป็นอัศจรรย์อย่างไร ?
 ตอบ คือท่านผู้สอนให้ประชุมชนประพฤติชอบด้วยกายวาจาใจตามพระธรรมวินัย ฯ
 ทรงสั่งสอนเป็นอศัจรรย์ คือผู้ปฏิบัติตามย่อมได้ประโยชน์โดยสมควรแก่ความปฏิบัติ ฯ
- 
ทุจริต คืออะไร ? พูดใส่ร้ายผู้อื่น จัดเข้าในทุจริตข้อไหน ?
 ตอบ ทุจริต คือ ประพฤติชั่ว ประพฤติเสียหาย ฯ จัดเข้าในวจีทุจริต ฯ
- 
เห็นผิดจากคลองธรรม คือเห็นอย่างไร ? จัดเข้าในทุจริตข้อไหน ?
 ตอบ คือเห็นผิดจากความเป็นจริง เช่น เห็นว่าบุญบาปไม่มีบิดามารดาไม่มีพระคุณ เป็นต้น ฯ
 จัดเข้าในมโนทุจริต ฯ
- 
มูลเหตุที่ทำให้บุคคลทำความชั่ว เรียกว่าอะไร ? มีอะไรบ้าง ?
 ตอบ เรียกว่า อกุศลมูล หมายถึงรากเหง้าของอกุศล ฯ มี
 ๑. โลภะ อยากได้
 ๒. โทสะ คิดประทุษร้ายเขา
 ๓. โมหะ หลงไม่รู้จริง ฯ
- 
อกุศลมูล เมื่อเกิดขึ้นแล้วเราควรปฏิบัติอย่างไร ?
 ตอบ เมื่อเกิดขึ้นแล้วควรละเสีย ด้วยทาน ศีล ภาวนา ฯ
- 
บุญกิริยาวัตถุ คืออะไร ? โดยย่อมีเท่าไร ? อะไรบ้าง ?
 ตอบ คือสิ่งเป็นที่ตั้งแห่งการบำเพ็ญบุญ ฯ มี ๓ ฯ คือ
 ๑. ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน
 ๒. สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล
 ๓. ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา ฯ
- 
ผู้ที่ทำงานไม่สำเร็จผลตามที่มุ่งหมายเพราะขาดคุณธรรมอะไรบ้าง ?
 ตอบ เพราะขาดอิทธิบาท คือ คุณเครื่องให้สำเร็จความประสงค์ ๔ อย่าง คือ
 ๑. ฉันทะ พอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น
 ๒. วิริยะ เพียรประกอบสิ่งนั้น
 ๓. จิตตะ เอาใจฝักใฝ่ในสิ่งนั้นไม่วางธุระ
 ๔. วิมังสา หมั่นตริตรองพิจารณาเหตุผลในสิ่งนั้น ฯ
- 
อริยสัจ ๔ มีอะไรบ้าง ? ความไม่สบายกายไม่สบายใจ จัดเป็นอริยสัจข้อไหน ?
 ตอบ มี ๑) ทุกข์ ความไม่สบายกายไม่สบายใจ
 ๒) สมุทัย เหตุให้เกิดทุกข์
 ๓) นิโรธ ความดับทุกข์
 ๔) มรรค ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ฯ
 ความไม่สบายกายไม่สบายใจจัดเป็นอริยสัจข้อ ๑ คือ ทุกข์ ฯ
- 
ทุกข์ในอริยสัจ ๔ คืออะไร ?  เหตุให้เกิดทุกข์ คืออะไร ?
 ตอบ ทุกข์ในอริยสัจ ๔ คือ ความไม่สบายกายไม่สบายใจ ฯ
 เหตุให้เกิดทุกข์ คือ ตัณหาความทะยานอยาก ฯ
- 
บุคคลผู้รักษาความยุติธรรมไว้ได้ ควรเว้นจากธรรมอะไร ? ธรรมนั้นมีอะไรบ้าง ?
 ตอบ ควรเว้นจากอคติ ๔ ฯ มี
 ๑. ความลำเอียงเพราะรักใคร่กัน เรียกว่า ฉันทาคติ
 ๒. ความลำเอียงเพราะไม่ชอบกัน เรียกว่า โทสาคติ
 ๓. ความลำเอียงเพราะเขลา เรียกว่า โมหาคติ
 ๔. ความลำเอียงเพราะกลัว เรียกว่า ภยาคติ ฯ
- 
ธรรมอันเป็นเครื่องกั้นจิตไม่ให้บรรลุความดีคืออะไร ? มีอะไรบ้าง ?
 ตอบ คือ นิวรณ์ ๕ ฯ มี
 ๑. กามฉันท์ พอใจรักใคร่ในอารมณ์ที่ชอบใจมีรูปเป็นต้น
 ๒. พยาบาท ปองร้ายผู้อื่น
 ๓. ถีนมิทธะ ความที่จิตหดหู่และเคลิบเคลิ้ม
 ๔. อุทธัจจกุกกุจจะ ฟุ้งซ่านและรำคาญ
 ๕. วิจิกิจฉา ลังเลไม่ตกลงได้ ฯ
- 
ขันธ์ ๕ ได้แก่อะไรบ้าง ?  สังขารขันธ์จัดเป็นรูปหรือนาม ?
 ตอบ ได้แก่ รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และ วิญญาณขันธ์ ฯ
 สังขารขันธ์ จัดเป็นนาม ฯ
- 
อานิสงส์แห่งการฟังธรรม มีอะไรบ้าง ?
 ตอบ มี ๕ อย่าง คือ
 ๑. ผู้ฟังธรรมย่อมได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง
 ๒. สิ่งใดได้เคยฟังแล้ว แต่ไม่เข้าใจชัด ย่อมเข้าใจสิ่งนั้นชัด
 ๓. บรรเทาความสงสัยเสียได้
 ๔. ทำความเห็นให้ถูกต้องได้
 ๕. จิตของผู้ฟังย่อมผ่องใส ฯ
- 
โลกธรรม ๘ คืออะไรบ้าง ? เมื่อเกิดขึ้นแล้วควรพิจารณาอย่างไร ?
 ตอบ คือ มีลาภ ๑ ไม่มีลาภ ๑ มียศ ๑ ไม่มียศ ๑ นินทา ๑ สรรเสริญ ๑ สุข ๑ ทุกข์ ๑ ฯ
- 
สัมมาวาจา เจรจาชอบ คือเจรจาอย่างไร ?
 ตอบ คือ เว้นจากพูดเท็จ เว้นจากพูดส่อเสียด เว้นจากพูดคำหยาบ เว้นจากพูดเพ้อเจ้อ ฯ
- 
มรรคมีองค์แปดจัดเข้าในสิกขา ๓ ได้หรือไม่ ? ถ้าได้จงจัดมาดู
 ตอบ ได้ ฯ ดังนี้
 สัมมาทิฏฐิ และ สัมมาสังกัปปะ จัดเข้าในปัญญาสิกขา
 สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ จัดเข้าในสีลสิกขา
 สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ จัดเข้าในจิตตสิกขา ฯ
- 
การคบคนชั่วเป็นมิตร เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างไร ?
 ตอบ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างนี้ คือ มักจะถูกคนชั่วชักจูง ไปในทางชั่ว เช่น คนไม่เคยเป็นนักเลงหญิง ไม่ติดสุรา ไม่เล่นการพนัน ไม่เป็นอันธพาล ก็ย่อมถูกชักจูงไปจนกลายเป็นนักเลงหญิงได้ เป็นต้น ฯ
- 
บุตรธิดาพึงปฏิบัติต่อมารดาบิดาอย่างไร ?
 ตอบ พึงปฏิบัติอย่างนี้
 ๑. ท่านได้เลี้ยงมาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ
 ๒. ทำกิจของท่าน
 ๓. ดำรงวงศ์สกุล
 ๔. ประพฤติตนให้เป็นคนควรรับทรัพย์มรดก
 ๕. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน ฯ
- 
อบายมุข คืออะไร ? ดื่มน้ำเมามีโทษอย่างไรบ้าง ?
 ตอบ อบายมุข คือ เหตุแห่งเครื่องฉิบหาย ฯ
 ดื่มน้ำเมามีโทษ ๖ อย่างนี้ คือ
 ๑) เสียทรัพย์
 ๒) ก่อการทะเลาะวิวาท
 ๓) เกิดโรค
 ๔) ถูกติเตียน
 ๕) ไม่รู้จักอาย
 ๖) ทอนกำลังปัญญา ฯ
- 
ศีลที่คฤหัสถ์ควรรักษาเป็นนิตย์ คือศีลอะไร ? ได้แก่อะไรบ้าง ?
 ตอบ คือ ศีล ๕ ฯ ได้แก่
 ๑. เว้นจากทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป
 ๒. เว้นจากถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ด้วยอาการแห่งขโมย
 ๓. เว้นจากประพฤติผิดในกาม
 ๔. เว้นจากพูดเท็จ
 ๕. เว้นจากดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ฯ
- 
มิตรแท้ที่ควรคบ มีกี่ประเภท ? อะไรบ้าง ?
 ตอบ มิตรแท้ที่ควรคบ มี ๔ ประเภท ฯ คือ
 ๑. มิตรมีอุปการะ
 ๒. มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์
 ๓. มิตรแนะประโยชน์
 ๔. มิตรมีความรักใคร่ ฯ
Tags:
เก็งข้อสอบนักธรรมชั้นตรี
เก็งข้อสอบนักธรรมชั้นตรี 2566
เก็งข้อสอบวิชาธรรมชั้นตรี 2566
น.ธ.ชั้นตรี
