![ขนฺติ หิตสุขาวหา ความอดทนนำมาซึ่งประโยชน์สุข วิธีการเขียนเรียงความแก้กระทู้ธรรมชั้นตรี, ขนฺติ หิตสุขาวหา ความอดทนนำมาซึ่งประโยชน์สุข](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg0fJ647t_YnOwZXzpf7KaCGIGzlof2AkHVeU3t2RtTRBKb1pUOL2LpU2hBjTYHofG_831e1GpMQMqtlPsywLiljPbFRODRF2GYbfE-xu_zqioNEEEydh0nLUfkOiIpQiOJthrAt-pkaRMLp8i4DNVEw5w-5gma9MG9t8UKlNUw0XDQG0P_mzXHXfPT/s1600-rw/Tho_05.webp)
อ่านบาลีว่า:
ขัน-ติ, หิ-ตะ-สุ-ขา-วะ-หา
อ่านแนวนำมาเขียนอธิบาย
ขนฺติ หิตสุขาวหา
ความอดทนนำมาซึ่งประโยชน์สุข
๑) อดทนต่อธรรมชาติ มีหนาว ร้อน ฝนตก แดดออก
๒) อดทนต่อความเหนื่อยยากลำบากในการทำงาน
๓) อดทนต่อความทุกขเวทนาอันเกิดจากความเจ็บปวดและโรคภัยไข้เจ็บ
๔) อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่แสดงอาการโกรธ หรือไม่แสดงความไม่พอใจเมื่อถูกกระทบกระทั่งจากคนอื่น
คนที่มีความอดทน เมื่อประสบกับสภาพที่ไม่น่าพอใจดังกล่าว ย่อมประสบแต่ความสุขความเจริญ สามารถปฏิบัติหน้าที่การงานให้สำเร็จลุล่วงได้ และขันติคือความอดทนนั้น ยังเป็นด่านแรกที่จะป้องกันกิเลสได้ เมื่อกิเลสเกิดขึ้นในใจ
ถ้าเรามีขันติคือความอดทนอดกลั้น อดทนต่ออำนาจของกิเลสนั้นได้ กิเลสก็จะไม่สามารถครอบงำจิตใจได้ ไม่สามารถบงการจิตใจให้ทำสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายตามอำนาจของมันได้ ผลร้ายอันจะเกิดจากการทำตามอำนาจของกิเลสก็จะไม่เกิดขึ้น
ดังนั้น ความอดทนจึงนำมาซึ่งประโยชน์สุข ทั้งในแง่ของการปฏิบัติหน้าที่การงาน ทั้งในแง่ของการปฏิบัติธรรมเพื่อกำจัดทุกข์ด้วย
สวดมนต์ฉบับหลวง
ตัวย่อสุภาษิต:
(ส.ม)
ADVERTISMENT