เก็งข้อสอบวิชาอนุพุทธประวัติ ธ.ศ.ชั้นโท (ชุดที่ ๑)

<h1>เก็งข้อสอบวิชาอนุพุทธประวัติ ธ.ศ.ชั้นโท ชุดที่ ๑</h1>


แนวข้อสอบวิชาอนุพุทธประวัติ ธรรมศึกษาชั้นโท ติวเข้มก่อนสอบธรรมสนามหลวง
{getButton} $text={วิชาอนุพุทธประวัติ} $color={#009933}
๑. ผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้า ตรงกับข้อใด
ก. พระปัจเจกพุทธเจ้า
ข. พระโสดาบัน
ค. พระอนุพุทธะ
ง. พระอนาคามี
๒. ผู้แรกเข้าถึงกระแสแห่งพระนิพพาน เป็นความหมายของข้อใด
ก. พระโสดาบัน
ข. พระสกทาคามี
ค. พระอนาคามี
ง. พระอรหันต์
๓. ผู้ได้รับยกย่องว่าเลิศในทางนั้นๆ เรียกว่าอะไร
ก. อริยบุคคล
ข. สาวก
ค. เอตทัคคะ
ง. พหูสูต
๔. อัญญาสิ ในคำว่า อญฺญาสิ วต โภ โกญฑัญโญ หมายความว่าอย่างไร
ก. ได้บรรลุแล้ว
ข. ได้รู้แล้ว
ค. ได้เห็นแล้ว
ง. ได้ปลงแล้ว
๕. พระอัญญาโกณฑัญญะ ได้รับยกย่องเป็นรัตตัญญูเพราะเหตุใด
ก. รู้ธรรมก่อนใคร
ข. บวชก่อนใคร
ค. มีประสบการณ์มาก
ง. มีความรู้มาก
๖. วาจาเช่นนี้ เราได้เคยพูดในปางก่อนแล้วหรือ ใครกล่าว
ก. พระพุทธเจ้า
ข. พระโกณฑัญญะ
ค. พระอัสสชิ
ง. พระสารีบุตร
๗. พระสาวกที่ได้รับยกย่องว่ามีบริวารมาก ชื่อว่าอะไร
ก. พระอุรุเวลกัสสปะ
ข. พระนทีกัสสปะ
ค. พระคยากัสสปะ
ง. พระมหากัสสปะ
๘. พระพุทธเจ้าทรงแสดงอาทิตตปริยายสูตร ณ ที่ใด
ก. อุรุเวลาเสนานิคม
ข. คยาสีสะ
ค. เชตวัน
ง. เวฬุวัน
๙. ใครเป็นกำลังสำคัญในการประกาศพระศาสนาที่แคว้นมคธ
ก. พระอัสสชิ
ข. พระมหากัสสปะ
ค. พระสารีบุตร
ง. พระอุรุเวลกัสสปะ
๑๐. ผู้มีอายุ ท่านมีอินทรีย์ผ่องใส บวชจำเพราะใคร เป็นคำพูดของใคร
ก. อชิตมาณพ
ข. ปุณณกมาณพ
ค. อุปติสสมาณพ
ง. โกลิตมาณพ
๑๑. อุปติสสมาณพได้ดวงตาเห็นธรรม เพราะฟังธรรมจากใคร
ก. พระพุทธเจ้า
ข. พระมหานามะ
ค. พระอัสสชิ
ง. พระยสะ
๑๒. ปิปผลิมาณพเห็นโทษในการครองเรือนอย่างไร จึงออกบวช
ก. ต้องรับผิดชอบมาก
ข. ต้องคอยรับบาปคนอื่น
ค. ต้องทำแต่บาปกรรม
ง. ต้องพัวพันเรื่องกาม
๑๓. ข้อใดไม่ใช่ธุดงควัตรของพระมหากัสสปะ
ก. ถือผ้าบังสุกุล
ข. เที่ยวบิณฑบาต
ค. อยู่ป่า
ง. อยู่ป่าช้า
๑๔. วรรณะทั้ง ๔ ย่อมเสมอด้วยกรรมคือการกระทำ ใครกล่าว
ก. พระมหากัสสปะ
ข. พระมหากัจจายนะ
ค. พระอานนท์
ง. พระอนุรุทธะ
๑๕. พระสาวกรูปใด บรรลุพระอรหันตก่อนบวช
ก. พระอนุรุทธะ
ข. พระมหากัสสปะ
ค. พระมหากัจจายนะ
ง. พระอานนท์
๑๖. ใครเห็นว่าลัทธิบูชาไฟของตนไม่มีแก่นสาร จึงขอบวชในพระพุทธศาสนา
ก. อุรุเวลกัสสปะ
ข. ปิปผลิมาณพ
ค. อุปติสสมาณพ
ง. โกลิตมาณพ
๑๗. พระสาวกรูปใด ทำให้พระสารีบุตรได้ชื่อว่า เป็นผู้มีความกตัญญู
ก. พระราธะ
ข. พระราหุล
ค. พระรัฐบาล
ง. พระจุนทะ
๑๘. พระมหากัสสปะอุปสมบทแล้วกี่วัน จึงสำเร็จเป็นพระอรหันต์
ก. ๕ วัน
ข. ๗ วัน
ค. ๘ วัน
ง. ๑๕ วัน
๑๙. พระสาวกรูปใด เป็นประธานทำสังคายนาเพื่อรักษพระศาสนาให้มั่นคงถาวร
ก. พระมหากัสสปะ
ข. พระอนุรุทธะ
ค. พระอานนท์
ง. พระอุบาลี
๒๐. พระพุทธเจ้าแสดงโทษการพูดมุสาแก่ใคร
ก. พระนันทะ
ข. พระราหุล
ค. พระอานนท์
ง. พระอุบาลี
๒๑. ราหุล เป็นพระนามที่ตั้งตามหลักใด
ก. มงคลนาม
ข. พิธีขนานนาม
ค. ฤาษีตั้งให้
ง. คำอุทานของบิดา
๒๒. ลูกเศรษฐีเมืองโสเรยยะ คิดอยากได้ภรรยามีรูปงามเหมือนพระสาวกรูปใด
ก. พระมหากัสสปะ
ข. พระโมฆราช
ค. พระมหากัจจายนะ
ง. พระราธะ
๒๓. พระสาวกรูปใด ขอผ่อนปรนให้อุปสมบทในปัจจันตชนบทด้วยสงฆ์ ๕ รูป
ก. พระโมฆราช
ข. พระมหากัจจายนะ
ค. พระอานนท์
ง. พระเรวตะ
๒๔. ข้อใด มิใช่เอตทัคคะของพระอานนท์
ก. แสดงธรรมไพเราะ
ข. มีสติ
ค. พหูสูต
ง. มีความเพียร
๒๕. พระสวกรูปใด บรรลุพระอรหันต์ช้าเพราะมีกิจมาก
ก. พระสารีบุตร
ข. พระอานนท์
ค. พระโมคคัลลานะ
ง. พระอนุรุทธะ
๒๖. พระสาวกรูปใด เป็นสหชาติคือเกิดวันเดียวกับพระพุทธเจ้า
ก. พระภัททิยะ
ข. พระนันนทะ
ค. พระราหุล
ง. พระกาฬุทายี
๒๗. พระสาวกรูปใด อธิษฐานให้ได้รับความรู้ทุกวันเท่ากับเม็ดทรายในกำมือ
ก. พระราหุล
ข. พระอนุรุทธะ
ค. พระอานนท์
ง. พระนันทะ
๒๘. พระสาวกรูปใด มีความชำนาญรอบรู้ในพระวินัยปิฏก
ก. พระมหากัสสปะ
ข. พระอนุรุทธะ
ค. พระอานนท์
ง. พระอุบาลี
๒๙. พระอานนท์ทูลขอพรว่า อย่าทรงไปในที่นิมนต์ เพราะเหตุใด
ก. ถือธุดงค์
ข. ไม่เห็นแก่ลาภ
ค. เบื่อหน่าย
ง. ทุพพลภาพ
๓๐. ก่อนพระพุทธเจ้าปรินิพพาน พระอานนท์สำเร็จเป็นพระอริยบุคคลชั้นใด
ก. พระโสดาบัน
ข. พระสกทาคามี
ค. พระอนาคามี
ง. พระอรหันต์
๓๑. ภิกษุณีรูปใดได้ชื่อว่าเป็นอัครสาวิกาเบื้องซ้ายผู้ทรงฤทธิ์
ก. พระกีสาโคตมีเถรี
ข. พระอุบลวรรณาเถรี
ค. พระมหาปชาบดีโคตมี
ง. พระปฏาจาราเถรี
๓๒. ภิกษุณีรูปใดได้ชื่อว่าเป็นภิกษุณีสาวิกาผู้ทรงจีวรเศร้าหมอง
ก. พระกีสาโคตมีเถรี
ข. พระอุบลวรรณาเถรี
ค. พระมหาปชาบดีโคตมี
ง. พระปฏาจาราเถรี
๓๓. สามเณรรูปใดบรรลุพรระอรหันต์เมื่ออายุ ๗ ขวบ
ก. บัณฑิตสามเณร
ข. สังกิจจสามเณร
ค. สุขสามเณร
ง. สุมนสามเณร
๓๔. สามเณรรูปใดแสดงปาฏิหาริย์ปราบโจร และสหธรรมให้โจรกลับใจขอบวชได้
ก. บัณฑิตสามเณร
ข. สังกิจจสามเณร
ค. สุขสามเณร
ง. สุมนสามเณร
๓๕. ผู้ที่สร้างวัดพระเชตวัน ถวายแก่พระพุทธเจ้าคือใคร
ก. ธัมมิกอุบาสิกา
ข. จิตตคฤหบดี
ค. อนาถบิณฑิกเศรษฐี
ง. นางวิสาขา
๓๖. ใครตัดสินอธิกรณ์ เรื่องภิกษุณีมารดาของพระกุมารกัสสปะ
ก. พระมหากัสสปะ
ข. พระสารีบุตร
ค. พระอุบาลี
ง. พระอานนท์
๓๗. ฝนดอกไม้ทิพย์ ๔ สี ตกลงมาเป็นที่น่าอัศจรรย์ เนื่องจากมีบุคคลใดมาถวายความเคารพพระพุทธเจ้า
ก. ธัมมิกอุบาสก
ข. จิตตคฤหบดี
ค. อนาถบิณฑิกเศรษฐี
ง. นางวิสาขา
๓๘. อุบาสกผู้ใดที่เทวดาเชื้อเชิญให้เป็นสหายและนำไปอยู่สวรรค์ชั้นดุสิต
ก. ธัมมิกอุบาสก
ข. จิตตคฤหบดี
ค. อนาถบิณฑิกเศรษฐี
ง. นางวิสาขา
๓๙. พระสาวกรูปใด อยู่ในครรภ์มารดาถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน
ก. พระราหุล
ข. พระสีวลี
ค. พระพากุละ
ง. พระกังขาเรวตะ
๔๐. อุบาสิกาใดที่เป็นผู้ริเริ่มการถวายผ้าอาบน้ำฝน
ก. ธัมมิกอุบาสก
ข. จิตตคฤหบดี
ค. อนาถบิณฑิกเศรษฐี
ง. นางวิสาขา
๔๑. การยินยอมให้ว่ากล่าวตักเตือนกันได้ เรียกว่าอะไร
ก. การขอขมา
ข. การทำวัตร
ค. สามีจิกรรม
ง. ปวารณากรรม
๔๒. ข้อใดเป็นอนุภาพของพระปริตร
ก. ร่ำรวยเงินทอง
ข. อายุยืน
ค. ขจัดทุกข์ภัยโรค
ง. เจริญด้วยยศศักดิ์
๔๓. ทักษิณานุประทาน มีความหมายตรงกับข้อใด
ก. ทำบุญวันเกิด
ข. ทำบุญอายุ
ค. ทำบุญขึ้นบ้านใหม่
ง. ทำบุญให้ผู้ตาย
๔๔. การทำบุญสตมวาร หมายถึงการทำบุญครบวันตายกี่วัน
ก. ๗ วัน
ข. ๕๐ วัน
ค. ๑๐๐ วัน
ง. ๓๖๕ วัน
๔๕. การสวดมาติกาบังสุกุลในงานพระราชพิธี เรียกว่าอย่างไร
ก. สวดแจง
ข. สดับปกรณ์
ค. สวดมาติกา
ง. สวดพระอภิธรรม
๔๖. เทศน์มหาชาติ เป็นการเทศน์ชาดกใด
ก. มโหสถ
ข. สุวรรณสาม
ค. มหาเวสสันดร
ง. มหาชนก
๔๗. การทำบุญต่อนาม หมายถึงอะไร
ก. งานทำบุญในบั้นปลายชีวิต
ข. งานทำบุญที่ญาติจัดให้ผู้ป่วย
ค. งานทำบุญครบรอบอายุ
ง. งานทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ล่วงลับ
๔๘. ผ้าป่าในสมัยพุทธกาล คือผ้าชนิดใด
ก. ผ้าวัสสิกสาฏก
ข. ผ้าอาบน้ำฝน
ค. ผ้าบังสุกุลจีวร
ง. ผ้าอัจเจกจีวร
๔๙. การทอดกฐิน หมดเขตกลางเดือนใด
ก. เดือน ๑๑
ข. เดือน ๑๒
ค. เดือนอ้าย
ง. เดือนยี่
๕๐. เวจกุฎี หมายถึงสถานที่ใด
ก. ห้องนอน
ข. ห้องรับแขก
ค. ห้องพยาบาล
ง. ห้องสุขา