![ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi5GgbIHSYK1F_I4sPUHhEQk-Y70YejmH_NWaGn_gkZ3mdRBBfZ9Ag04pDZ3wo0kLI8qjo5XcZhXv90OSF4cv6PgRa8t5LSh5P3xqF3XzH8pnprLYhNXl7R7BpniSbDNbO-GhRwzow361yTpAONEnLVx3-yM6c-1TkbgRw3MQavJVE5aT6NV4syCOqz/s1600-rw/Tho_02.webp)
อ่านบาลีว่า:
ทะ-ทะ-มา-โน, ปิ-โย, โห-ติ
อ่านแนวนำมาเขียนอธิบาย
ททมาโน ปิโย โหติ
ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
เพราะฉะนั้น บุคคลผู้มีปกติให้ ย่อมเป็นที่รักของผู้ได้รับและย่อมจะได้รับมิตรภาพจากผู้รับเสมอ การให้หรือเป็นผู้ให้จึงเป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญ และควรทำเป็นอย่างยิ่ง ดังที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสรรเสริญผู้ให้ ว่าผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของคนอื่น
อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต
ตัวย่อสุภาษิต:
(องฺ.ปญฺจก. ๒๒/๔๔)
ADVERTISMENT