เก็งข้อสอบวิชาธรรมวิจารณ์ ธรรมศึกษาชั้นเอก ระดับมัธยมศึกษา

| ๑. | พุทธพจน์ว่า จิตฺเต สงฺกิลิฏฺเฐ ทุคติ ปาฏิกงฺขา ยืนยันเรื่องใด ? ก. ตายแล้วสูญ ข. ตายแล้วเกิด ค. ตายแล้วฟื้น ง. ถูกทุกข้อ |
| ๒. | พุทธพจน์ว่า จิตฺเต อสงฺกิลิฏฺเฐ สุคติ ปาฏิกงฺขา ยืนยันเรื่องใด ? ก. ตายแล้วเกิด ข. ตายแล้วสูญ ค. ตายแล้วฟื้น ง. ถูกทุกข้อ |
| ๓. | การเวียนว่ายตายเกิดของสัตว์ทั้งหลาย เรียกว่าอะไร ? ก. ภูมิ ข. สังสารวัฏ ค. คติ ง. ภพ |
| ๔. | ภูมิเป็นที่ไปข้างหน้าหลังความตาย มีคำเรียกว่าอะไร ? ก. คติ ข. ภพ ค. ปรโลก ง. อบาย |
| ๕. | ภูมิเป็นที่ไปข้างชั่ว หมายถึงข้อใด ? ก. สุคติ ข. ทุคติ ค.ภพ ง. คติ |
| ๖. | คำตอบในข้อใด ไม่จัดเป็นทุคติ ? ก. นิรยะ ข. ติรัจฉานโยนิ ค. ปิตติวิสยะ ง. มนุษย์โลก |
| ๗. | วิมานของพวกเวมานิกเปรต อยู่ในทุคติใด ? ก. อบาย ข. ทุคติ ค. วินิบาต ง. นิรยะ |
| ๘. | ในเทวทูตสูตร ข้อใดไม่จัดเป็นเทวทูต ? ก. เด็กแรกคลอด ข. คนเจ็บ ค. คนชรา ง. นักบวช |
| ๙. | ใครทำหน้าที่พิพากษาลงโทษสัตว์นรก ? ก. พยายมราช ข. นายนิรยบาล ค. ท้าวจตุโลกบาล ง. ท้าวสักกเทวโลก |
| ๑๐. | ใครทำหน้าที่ลงโทษสัตว์นรก ? ก. นายนิรยบาล ข. พญายมราช ค. เทวราช ง. จตุโลกบาล |
| ๑๑. | เทวทูตเป็นสัญญาณเตือนมนุษย์ให้ตระหนักในเรื่องใด ? ก. ความไม่โกรธ ข. ความไม่ประมาท ค. ความไม่โลภ ง. ความกลัว |
| ๑๒. | สัตว์ชนิดใดกินหญ้าเป็นอาหาร ? ก. ไก่ ข. สุกร ค. ลา ง. ไส้เดือน |
| ๑๓. | สัตว์ชนิดใด มีคูถเป็นเป็นอาหาร ? ก. กระบือ ข. สุนัข ค. กวาง ง. เต่า |
| ๑๔. | สัตว์ชนิดใด เกิดและตายในที่มืด ? ก. ม้า ข. ปลา ค. สุนัขจิ้งจอก ง. มอด |
| ๑๕. | สุคติโลกสวรรค์มีกี่ชั้น ? ก. ๔ ข. ๕ ค. ๖ ง. ๗ |
| ๑๖. | ภูมิเป็นที่ไปของผู้ประกอบกุศลธรรม โดยรวมเรียกว่าอะไร ? ก. สุคติ ข. พรหมโลก ค. มนุษย์โลก ง. เทวโลก |
| ๑๗. | เทพองค์ใด ปกครองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ? ก. ท้าวกุเวร ข. ท้าววิรูปักษ์ ค. ท้าวธตรฐ ง. ท้าวสักกะ |
| ๑๘. | พระอริยบุคคลใด ละสังขารแล้วไปเกิดในพรหมโลกชั้นสุทธาวาส ? ก. พระโสดาบัน ข. พระสกทาคามี ค. พระอนาคามี ง. พระอรหันต์ |
| ๑๙. | ผู้บรรลุปฐมฌานสิ้นชีวิตแล้วไปเกิดในพรหมโลกชั้นใด ? ก. อาภัสสรา ข. ปริตตาภา ค. มหาพรหมา ง. เวหัปผลา |
| ๒๐. | พระอนาคามีละสังขารแล้ว ไปเกิดในพรหมโลกชั้นใด ? ก. มหาพรหมา ข. อาภัสสรา ค. เวหัปผลา ง. สุทธาวาส |
| ๑. | กรรมทันตา เรียกว่าอะไร ? ก. ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ข. อโหสิกรรม ค. ชนกกรรม ง. พหุลกรรม |
| ๒. | ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม หมายถึง กรรมที่ให้ผลในเวลาใด ? ก. ชาตินี้ ข. ชาติหน้า ค. ชาติต่อๆ ไป ง. ถูกทุกข้อ |
| ๓. | อปราปรเวทนียกรรม ให้ผลเปรียบเสมือนอะไร ท ก. พรานล่าสัตว์ ข. สุนัขล่าเนื้อ ค. เงาตามตัว ง. คนเลี้ยงโค |
| ๔. | การกระทำในข้อใด ชะลอการให้ผลของกรรมชั่ว ? ก. รดน้ำมนต์ ข. สะเดาะเคาระห์ ค. ต่อชะตา ง. ทำความดีต่อเนื่อง |
| ๕. | ชนกกรรม ทำหน้าที่อะไร ? ก. แต่งให้เกิด ข. สนับสนุน ค. บีบคั้น ง. ตัดรอน |
| ๖. | ผู้ประสบอุบัติเหตุตายก่อนวัยอันควร เพราะกรรมใดให้ผล ? ก. ชนกกรรม ข. ครุกรรม ค. อุปฆาตกกรรม ง. กตัตตากรรม |
| ๗. | กรรมใดให้ผลก่อนสิ้นใจ ? ก. ครุกรรม ข. พหุลกรรม ค. อาสันนกรรม ง. กตัตตากรรม |
| ๘. | อุปปัชชเวทนียกรรม หมายถึงกรรมที่ให้ผลในเวลาใด ? ก. ชาตินี้ ข. ชาติหน้า ค. ชาติต่อๆ ไป ง. ถูกทุกข้อ |
| ๙. | กรรมชนิดใดให้ผลสำเร็จแล้ว ? ก. ชนกกรรม ข. อโหสิกรรม ค. พหุลกรรม ง. อาสันนกรรม |
| ๑๐. | อุปัตถัมภกกรรม ทำหน้าที่อะไร ? ก. แต่งให้เกิด ข. สนับสนุน ค. บีบคั้น ง. ตัดรอน |
| ๑๑. | อุปฆาตกกรรม ทำหน้าที่อะไร ? ก. แต่งให้เกิด ข. สนับสนุน ค. บีบคั้น ง. ตัดรอน |
| ๑๒. | ผู้ทำปิตุฆาต มาตุฆาต เป็นผู้ทำกรรมชนิดใ ? ก. ชนกกรรม ข. อุปปีฬกกรรม ค. อุปฆาตกกรรม ง. ครุกรรม |
| ๑๓. | ครุกรรมฝ่ายกุศล หมายถึงข้อใด ? ก. สมาบัติ ๘ ข. บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ค. อริยสัจ ๔ ง. มรรค ๘ |
| ๑. | หัวใจของสมถกัมมัฏฐาน มีกี่ประการ ? ก. ๔ ประการ ข. ๕ ประการ ค. ๖ ประการ ง. ๗ ประการ |
| ๒. | การเจริญสมถกัมมัฏฐาน เป็นอุบายสงบอะไร ? ก. สงบกาย ข. สงบวาจา ค. สงบใจ ง. ถูกทุกข้อ |
| ๓. | การกำหนดสติพิจารณาอาการ ๓๒ เป็นการเจริญกัมมัฏฐานใด ? ก. กายคตาสติ ข. กสิณ ค. จตุธาตุววัตถาน ง. มรณัสสติ |
| ๔. | เห็นอาการ ๓๒ อย่างไร จึงจะเป็นกัมมัฏฐาน ? ก. สวยงาม ข. ปฏิกูล ค. น่ากลัว ง. น่ารัก |
| ๕. | การเจริญกายคตาสติ แก้นิวรณ์ใด ? ก. กามฉันทะ ข. พยาบาท ค. ถีนมิทธะ ง. วิจิกิจฉา |
| ๖. | ผู้เจริญเมตตา ควรเริ่มต้นที่ใครก่อน ? ก. มารดาบิดา ข. มิตรสหาย ค. ศัตรู ง. ครูอาจารย์ |
| ๗. | หลับเป็นสุข ตื่นเป็นสุข เป็นอานิสงส์ของการเจริญกัมมัฏฐานใด ? ก. กายคตาสติ ข. เมตตา ค. พุทธานุสสติ ง. กสิณ |
| ๘. | หน้าตาผ่องใส เป็นอานิสงส์ของการเจริญกัมมัฏฐานใด ? ก. กายคตาสติ ข. เมตตา ค. กสิณ ง. พุทธานุสสติ |
| ๙. | คำตอบในข้อใด เป็นคำบริกรรมของเจริญพุทธานุสสติ ? ก. อรหํ ข. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ค. ภควา ง. ถูกทุกข้อ |
| ๑๐. | ข้อใดเป็นคำบริกรรมของผู้เจริญพุทธานุสสติ ? ก. พุทโธ ข. ธัมโม ค. สังโฆ ง. ยุบหนอ พองหนอ |
| ๑๑. | การเจริญพุทธานุสสติ แก้นิวรณ์ใด ? ก. กามฉันท์ ข. พยาบาท ค. ถีนมิทธะ ง. วิจิกิจฉา |
| ๑๒. | คนถูกนิวรณ์คือกามฉันทะครอบงำ ควรเจริญกัมมัฏฐานใด ? ก. กายคตาสติ ข. เมตตา ค. กสิณ ง. พุทธานุสสติ |
| ๑๓. | คนถูกนิวรณ์คือพยาบาทครอบงำ ควรเจริญกัมมัฏฐานใด ? ก. กายคตาสติ ข. เมตตา ค. กสิณ ง. พุทธานุสสติ |
| ๑๔. | คนถูกนิวรณ์คือถีนมิทธะครอบงำ ควรเจริญกัมมัฏฐานใด ? ก. กายคตาสติ ข. เมตตา ค. กสิณ ง. พุทธานุสสติ |
| ๑๕. | คนถูกนิวรณ์คืออุทธัจจกุกกุจจะครอบงำ ควรเจริญกัมมัฏฐานใด ? ก. กายคตาสติ ข. เมตตา ค. กสิณ ง. พุทธานุสสติ |
| ๑๖. | คนถูกนิวรณ์คือวิจิกิจฉาครอบงำ ควรเจริญกัมมัฏฐานใด ? ก. กายคตาสติ ข. เมตตา ค. กสิณ ง. จตุธาตุววัตถาน |
| ๑๗. | การพิจารณาความแก่บ่อยๆ เป็นอุบายบรรเทาความประมาทในอะไร ? ก. ความไม่มีโรค ข. วัย ค. ชีวิต ง. สุขภาพ |
| ๑๘. | การพิจารณาความตายบ่อยๆ เป็นอุบายบรรเทาความประมาทในเรื่องใด ? ก. ความไม่มีโรค ข. วัย ค. ชีวิต ง. สุขภาพ |
| ๑๙. | การกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก เป็นการเจริญสติปัฏฐานใด ? ก. กายานุปัสสนา ข. เวทนานุปัสสนา ค. จิตตานุปัสสนา ง. ธัมมานุปัสสนา |
| ๒๐. | กำหนดพิจารณาเรื่องใด ไม่จัดเป็นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน ? ก. ลมหายใจ ข. อิริยาบถ ค. ธาตุ ๔ ง. ความรู้สึก |
| ๒๑. | กำหนดพิจารณาอะไร จัดเป็นจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน ? ก. สุข ข. ทุกข์ ค. กุศล ง. จิต |
| ๑. | นิมิตใด ปรากฎแก่ผู้ปฏิบัติก่อนจะบรรลุอัปปนาสมาธิ ? ก. กรรมนิมิต ข. บริกรรมนิมิต ค. อุคคหนิมิต ง. ปฏิภาคนิมิต |
| ๒. | กสิณ หมายถึงอะไร ? ก. วัตถุสำหรับเพ่ง ข. แผ่เมตตา ค. พิจารณาอสุภะ ง. กำหนดลมหายใจ |
| ๓. | คำตอบในข้อใด เป็นอารมณ์ของกสิณ ? ก. ดิน ข. น้า ค. ไฟ ง. ถูกทุกข้อ |
| ๔. | สีใด ไม่จัดเป็นกสิณ ? ก. สีเหลือง ข. สีแดง ค. สีขาว ง. สีดำ |
| ๕. | การเจริญกสิณ แก้นิวรณ์ใด ? ก. กามฉันท์ ข. พยาบาท ค. ถีนมิทธะ ง. อุทธัจจกุกกุจจะ |
| ๖. | โลหิตกสิณ หมายถึงข้อใด ? ก. กสิณสีเขียว ข. กสิณสีแดง ค. กสิณสีขาว ง. กสิณสีเหลือง |
| ๗. | วิธีเจริญกสิณ ต้องเจริญด้วยอาการอย่างไร ? ก. เพ่ง ข. พิจารณา ค. รักษา ง. คุ้มครอง |
| ๘. | อสุภะ หมายถึงการพิจารณาอะไร ? ก. ผิวหนัง ข. ร่างกาย ค. อาหารบูด ง. ซากศพ |
| ๙. | ระลึกถึงคุณของใคร เป็นการเจริญอนุสสติ ? ก. พระพุทธ ข. พระธรรม ค. พระสงฆ์ ง. ถูกทุกข้อ |
| ๑๐. | กำหนดพิจารณาคุณธรรมคือการเผื่อแผ่ จัดเป็นอนุสสติใด ? ก. ธัมมานุสสติ ข. สีลานุสสติ ค. จาคานุสสติ ง. มรณัสสติ |
| ๑๑. | การกำหนดลมหายใจเป็นอนุสสติใด ? ก. เทวตานุสสติ ข. อุปสมานุสสติ ค. กายคตานุสสติ ง. อานาปานัสสติ |
| ๑๒. | การพิจารณาถึงศีลของตนที่บริสุทธิ์ไม่ด่างพร้อย จัดเป็นอนุสสติใด ? ก. ธัมมานุสสติ ข. สีลานุสสติ ค. จาคานุสสติ ง. มรณัสสติ |
| ๑๓. | การนึกถึงความดีที่ตนบริจาคช่วยผู้ประสบภัย จัดเป็นอนุสสติใด ? ก. สีลานุสสติ ข. จาคานุสสติ ค. เทวตานุสสติ ง. อุปสมานุสสติ |
| ๑๔. | พรหมวิหารข้อใด เป็นข้าศึกแก่โทสะและพยาบาทโดยตรง ? ก. เมตตา ข. กรุณา ค. มุทิตา ง. อุเบกขา |
| ๑๕. | พรหมวิหารข้อใด สามารถทำให้ผู้เจริญบรรลุฌานขั้นสูงสุดได้ ? ก. เมตตา ข. กรุณา ค. มุทิตา ง. อุเบกขา |
| ๑๖. | การพิจารณาอาหารโดยอาการใด ไม่เป็นอาหาเรปฏิกูลสัญญา ? ก. การแสวงหา ข. การบริโภค ค. การขับถ่าย ง. การปรุง |
| ๑๗. | ร่างกายบุคคลเคบลื่อนไหวได้เพราะอาสัยธาตุใด ? ก. ธาตุดิน ข. ธาตุน้ำ ค. ธาตุไฟ ง. ธาตุลม |
| ๑๘. | เนวสัญญานาวสัญญายาตนะ ใช้คำบริกรรมว่าอย่างไร ? ก. อนนฺโต ข. อนนฺตํ ค. นตฺถิ กิญจิ ง. สนฺตเมตํ ปณีตเมตํ |
| ๑๙. | อาการ ๓๒ ได้แก่ข้อใด ? ก. เลือด ข. น้ำตา ค. หัวใจ ง. ถูกทุกข้อ |
| ๒๐. | พรหมวิหารใด มีลักษณะไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ? ก. เมตตา ข. กรุณา ค. มุทิตา ง. อุเบกขา |
| ๒๑. | จตุธาตุววัตถาน เป็นการพิจารณาร่างกายโดยอาการอย่างไร ? ก. เป็นของสวยงาม ข. เป็นสิ่งปฏิกูล ค. เป็นสิ่งน่ากลัว ง. เป็นเพียงธาตุ ๔ |
| ๒๒. | ข้อใด เป็นอารมณ์ของสมถกัมมัฏฐานตามนัยพระบาลี ? ก. สติปัฏฐาน ข. กสิณ ค. อสุภะ ง. อนุสสติ |
| ๒๓. | ผู้ที่ประมาทในวัยว่ายังหนุ่มสาว ควรพิจารณาเรื่องใดบ่อยๆ ? ก. ความแก่ ข. ความเจ็บ ค. ความตาย ง. ความพลัดพราก |
| ๒๔. | ผู้ที่ประมาทในชีวิต ควรพิจารณาเรื่องใดบ่อยๆ ? ก. ความแก่ ข. ความเจ็บ ค. ความตาย ง. ความพลัดพราก |
| ๒๕. | อาหาเรปฏิกูลสัญญา ต้องพิจารณาโดยอาการอย่างไร ? ก. แสวงหา ข. การบริโภค ค. การขับถ่าย ง. ถูกทุกข้อ |
| ๒๖. | คำตอบในข้อใด ไม่ใช่ปฐวีธาตุ ? ก. น้ำตา ข. กระดูก ค. ฟัน ง. หนัง |
| ๒๗. | วิญญาณัญจายตนะ มีคำบริกรรมว่าอย่างไร ? ก. อนนฺโต อากาโส ข. อนนฺตํ วิญญาณํ ค. นตฺถิ กิญฺจิ ง. สนฺตเมตํ |
| ๒๘. | คนหูเบาถูกชักจูงให้เชื่อได้ง่าย เป็นคนจริตใด ? ก. ราคจริต ข. โทสจริต ค. โมหจริต ง. สัทธาจริต |
| ๒๙. | คนอารมณ์ฉุนเฉียวโกรธง่าย เป็นคนจริตใด ? ก. ราคจริต ข. โทสจริต ค. สัทธาจริต ง. วิตกจริต |
| ๓๐. | คนรักสวยรักงาม นิยมสินค้าราคาแพง จัดเป็นคนจริตใด ? ก. ราคจริต ข. โทสจริต ค. โมหจริต ง. สัทธาจริต |
| ๓๑. | คนเชื่อง่าย จัดเป็นคนจริตใด ? ก. ราคจริต ข. โทสจริต ค. สัทธาจริต ง. วิตกจริต |
| ๑. | ผู้ไกลจากกิเลส เป็นความหมายของพุทธคุณบทใด ? ก. อรหํ ข. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ค. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน ง. สุคโต |
| ๒. | ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง เป็นความหมายของพุทธคุณบทใด ? ก. อรหํ ข. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ค. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน ง. สุคโต |
| ๓. | ผู้เสด็จไปดีแล้ว เป็นความหมายของพุทธคุณบทใด ? ก. อรหํ ข. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ค. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน ง. สุคโต |
| ๔. | ญาณใด จัดเข้าในพุทธคุณบทว่า วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน ? ก. วิปัสสนาญาณ ข. จุตูปปาตญาณ ค. เจโตปริยญาณ ง. ทิพพโสต |
| ๕. | วิชชา ในคำว่า วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน หมายถึงวิชาาใด ? ก. อาสวักขยญาณ ข. มโนมยิทธิ ค. ทิพพโสต ง. ถูกทุกข้อ |
| ๖. | พระพุทธคุณบทใด เป็นพระกรุณาคุณ ? ก. อรหํ ข. สตฺถา เทวมนุสฺสานํ ค. พุทฺโธ ง. ภควา |
| ๗. | พุทธคุณบทใด เป็นคุณประโยชน์แก่ผู้อื่น ? ก. อรหํ ข. สุคโต ค. โลกวิทู ง. สตฺถา เทวมนุสฺสานํ |
| ๘. | พุทธคุณบทใด ยืนยันว่าพระพุทธเจ้าทรงเป็นพระบรมครู ? ก. อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ ข. สตฺถา เทวมนุสฺสานํ ค. พุทฺโธ ง. ภควา |
| ๙. | คำตอบในข้อใด เป็นความหมายของพระพุทธคุณบทว่า ภควา ? ก. ผู้จำแนกธรรม ข. ผู้เสด็จไปดีแล้ว ค. ผู้เบิกบาน ง. ถูกทุกข้อ |
| ๑๐. | พุทธคุณบทใด จัดเข้าในพระปัญญาคุณและพระมหากรุณาคุณ ? ก. อรหํ ข. สุคโต ค. โลกวิทู ง. พุทฺโธ ภควา |