เก็งข้อสอบวิชาธรรมวิภาค ธรรมศึกษาชั้นตรี ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป

<h1>เก็งข้อสอบวิชาธรรมวิภาค ธรรมศึกษาชั้นตรี ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป</h1>


เก็งข้อสอบวิชาธรรมวิภาค ธรรมศึกษาชั้นตรี ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป
{getButton} $text={เรื่อง ธรรมมีอุปการะมาก ๒} $color={#009933}
๑. ข้อใด เป็นธรรมมีอุปการะมาก ?
ก. สติ สัมปชัญญะ
ข. หิริ โอตตัปปะ
ค. ขันติ โสรัจจะ
ง. กตัญญู กตเวที
๒. คนที่ทำ พูด คิด ผิดพลาดอยู่เสมอเพราะขาดธรรมข้อใด ?
ก. สติ สัมปชัญญะ
ข. หิริ โอตตัปปะ
ค. ขันติ โสรัจจะ
ง. กตัญญู กตเวที
๓. ข้อใดเป็นความหมายของสติ ?
ก. ความระลึกได้
ข. ความรู้ตัว
ค. ความรอบรู้
ง. ความจำได้
๔. สติ ควรใช้เวลาไหน ?
ก. ขณะทำพูดคิด
ข. ก่อนทำพูดคิด
ค. หลังทำพูดคิด
ง. ทำพูดคิดแล้ว
๕. เราควรใช้สัมปชัญญะเมื่อใด ?
ก. ขณะทำ พูด คิด
ข. ก่อนทำ พูด คิด
ค. หลังทำ พูด คิด
ง. ก่อนทำ ขณะพูด คิด
๖. ข้อใดเป็นลักษณะของคนมีสัมปชัญญะ ?
ก. กล้าหาญอดทน
ข. ซื่อสัตย์สุจริต
ค. ไม่ประมาท
ง. อายชั่วกลัวบาป
๗. คนขาดสติสัมปชัญญะมีลักษณะเช่นไร ?
ก. โงเขลา
ข. ประมาท
ค. ขาดความละอาย
ง. ไร้ความรับผิดชอบ
๘. สัมปชัญญะ มีความหมายตรงกับข้อใด ?
ก. ความระลึกได้
ข. ความรู้ตัว
ค. ความรอบรู้
ง. ความทรงจำ
๙. ผู้มีความรอบคอบทำงานไม่ผิดพลาด เพราะมีธรรมอะไร ?
ก. หิริโอตตัปปะ
ข. ขันติโสรัจจะ
ค. สติสัมปชัญญะ
ง. กตัญญูกตเวที
๑๐. พหุปการธรรม หมายถึงข้อใด ?
ก. หิริ โอตตัปปะ
ข. ขันติ โสรัจจะ
ค. กตัญญู กตเวที
ง. สติ สัมปชัญญะ
๑๑. บุคคลใดควรใช้สติสัมปชัญญะมากที่สุด ?
ก. คนข้ามถนน
ข. คนขับรถ
ค. คนซื้อสลาก
ง. คนขายสลาก
๑๒. คำว่า พลั้งปากเสียศีล พลั้งตีนตกต้นไม้ เพราะขาดธรรมใด ?
ก. สติ
ข. ศีล
ค. สมาธิ
ง. ปัญญา
๑๓. ธรรมใด เป็นอุปมาดุจหางเสือเรือ ?
ก. หิริ
ข. โอตตัปปะ
ค. สติ
ง. ขันติ



{getButton} $text={เรื่อง ธรรมคุ้มครองโลก ๒} $color={#009933}
๑. ธรรมข้อใดเป็นพื้นฐานให้คนมีศีล ?
ก. สติ สัมปชัญญะ
ข. ขันติ โสรัจจะ
ค. หิริ โอตตัปปะ
ง. กตัญญู กตเวที
๒. หิริโอตตัปปะ จัดเป็นธรรมอะไร ?
ก. มีอุปการะมาก
ข. คุ้มครองโลก
ค. ธรรมอันทำให้งาม
ง. ธรรมของโลก
๓. คนมีหิริมีลักษณะเช่นใด ?
ก. รังเกียจคนชั่ว
ข. ละอายบาป
ค. เกรงกลัวบาป
ง. เกรงกลัวคนชั่ว
๔. คนมีโอตตัปปะมีลักษณะเช่นใด ?
ก. รังเกียจคนชั่ว
ข. ละอายบาป
ค. เกรงกลัวบาป
ง. เกรงกลัวคนชั่ว
๕. ธรรมคุ้มครองโลก หมายถึงธรรมประเภทใด ?
ก. พหุปการธรรม
ข. ธรรมเป็นโลกบาล
ค. โสภณธรรม
ง. ทุลลภบุคคล
๖. หิริโอตตัปปะ เรียกอีกอย่างว่าอะไร ?
ก. พหุปการธรรม
ข. โสภณธรรม
ค. สุกกธรรม
ง. ทุลลภบุคคล
๗. อยากเป็นเทวดา ควรประพฤติธรรมใด ?
ก. สติสัมปชัญญะ
ข. หิริ โอตตัปปะ
ค. ขันติ โสรัจจะ
ง. กตัญญู กตเวที
๘. ละอายชั่วกลัวบาป เป็นความหมายของธรรมใด ?
ก. หิริ โอตตัปปะ
ข. สติ สัมปชัญญะ
ค. ขันติ โสรัจจะ
ง. กตัญญู กตเวที
๙. เทวธรรม หมายถึงข้อใด ?
ก. สติสัมปชัญญะ
ข. หิริโอตตัปปะ
ค. ขันติโสรัจจะ
ง. กตัญญูกตเวที



{getButton} $text={เรื่อง ธรรมอันทำให้งาม ๒} $color={#009933}
๑. ธรรมข้อใดทำให้งดงามทั้งภายในภายนอก ?
ก. หิริ โอตตัปปะ
ข. สติ สัมปชัญญะ
ค. ขันติ โสรัจจะ
ง. กตัญญู กตเวที
๒. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของขันติ ?
ก. ทนทำงาน
ข. ทนลำบาก
ค. ทนหิว
ง. ทนเล่นเกมส์
๓. ผู้ถูกดูหมิ่นให้เจ็บใจแต่ยิ้มแย้มได้ เพราะมีธรรมข้อใด ?
ก. หิริ
ข. สติ
ค. โสรัจจะ
ง. ขันติ
๔. ความงามในข้อใดสำคัญที่สุด ?
ก. งามจิตใจ
ข. งามมารยาท
ค. งามกาย
ง. งามเครื่องประดับ
๕. ข้อใดเป็นลักษณะของผู้มีความงามตามหลักธรรม ?
ก. ไม่ยินดียินร้าย
ข. อดกลั้นไม่หวั่นไหว
ค. ไม่กระวนกระวาย
ง. ไม่ตื่นตระหนก
๖. อาภรณ์แต่งกาย แต่ใจแต่งด้วยธรรม หมายถึงข้อใด ?
ก. สติสัมปชัญญะ
ข. หิริโอตตัปปะ
ค. ขันติโสรัจจะ
ง. เมตตากรุณา
๗. งามอะไรไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา ?
ก. เสื้อผ้า
ข. กิริยา
ค. หน้าตา
ง. คุณธรรม
๘. คนมีขันติ มีลักษณะเช่นใด ?
ก. ทนต่อการศึกษา
ข. ทนเล่นเกมส์
ค. ทนดูหนัง
ง. ทนดูกีฬา
๙. อดทนต่อการเจ็บป่วย จัดเป็นความอดทนในเรื่องใด ?
ก. ความลำบาก
ข. ทุกขเวทนา
ค. ความเจ็บใจ
ง. อำนาจกิเลส
๑๐. ขันติโสรัจจะ เรียกอีกอย่างว่าอะไร ?
ก. โสภณธรรม
ข. พหุปการธรรม
ค. สุกกธรรม
ง. เทวธรรม



{getButton} $text={เรื่อง บุคคลหาได้ยาก ๒} $color={#009933}
๑. ผู้ทำอุปการะก่อน เรียกว่าอะไร ?
ก. กตัญญู
ข. กตเวที
ค. กตัญญูกตเวที
ง. บุพพการี
๒. ผู้รู้อุปการะที่ท่านทำแล้วตอบแทน เรียกว่าอะไร ?
ก. กตัญญู
ข. กตเวที
ค. กตัญญูกตเวที
ง. บุพพการี
๓. คนเรามักลืมบุญคุณผู้อื่น พระพุทธศาสนาจึงสอนเรื่องใด ?
ก. ความมีเมตตา
ข. ความซื่อสัตย์
ค. ความเสียสละ
ง. ความกตัญญู
๔. บุพพการีชน หมายถึงใคร ?
ก. พระมหากษัตริย์
ข. บิดามารดา
ค. ครูอาจารย์
ง. ถูกทุกข้อ
๕. ผู้ทำอุปการะโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน คือใคร ?
ก. เพื่อนสนิท
ข. ญาติสนิท
ค. บุตรธิดา
ง. บิดามารดา
๖. คำว่า พระในบ้าน หมายถึงข้อใด ?
ก. พระพุทธรูป
ข. พระภูมิเจ้าที่
ค. พ่อ แม่
ง. ปู่ ย่าตายาย
๗. จะรู้ได้อย่างไรว่า คนที่เราคบเป็นคนดี ?
ก. อัธยาศัยดี
ข. ขยันทำงาน
ค. รู้จักแทนคุณ
ง. ขยันเรียน
๘. ธรรมข้อใดจัดเป็นเครื่องหมายของคนดี ?
ก. กตัญญูกตเวที
ข. เมตตากรุณา
ค. ประหยัดอดออม
ง. ขยันอดทน
๙. ไม้เท้าผู้เฒ่าดีกว่าลูกเต้าอกตัญญู จัดเป็นลูกประเภทใด ?
ก. เนรคุณ
ข. ตอบแทนคุณ
ค. รู้บุญคุณ
ง. ทำบุญคุณ



{getButton} $text={เรื่อง รัตนะ ๓} $color={#009933}
๑. ชาวพุทธต้องยึดถืออะไรเป็นที่พึ่งที่ระลึก ?
ก. พระรัตนตรัย
ข. พระไตรปิฎก
ค. โอวาทปาติโมกข์
ง. ไตรสิกขา
๒. ผู้รู้ดีรู้ชอบและสอนให้ผู้อื่นปฏิบัติตาม หมายถึงใคร ?
ก. พระพุทธเจ้า
ข. พระปัจเจกพุทธเจ้า
ค. พระอรหันต์
ง. พระสาวก
๓. พระธรรม คืออะไร ?
ก. ระเบียบ
ข. คำสั่งสอน
ค. คำตักเตือน
ง. กติกา
๔. ข้อใด เป็นหน้าที่ของพระสงฆ์ ?
ก. สอนให้มีโชค
ข. สอนให้มีลาภ
ค. สอนให้ทำความดี
ง. สอนให้รวย



{getButton} $text={เรื่อง อกุศลมูล ๓} $color={#009933}
๑. รากเหง้าของอกุศลเรียกว่าอะไร ?
ก. อกุศลมูล
ข. อวิชชา
ค. บาป
ง. มาร
๒. อกุศลมูล เกิดขึ้นแล้วควรละด้วยวิธีปฏิบัติอย่างไร ?
ก. ให้ทาน
ข. รักษาศีล
ค. เจริญภาวนา
ง. ถูกทุกข้อ
๓. อกุศลมูลใด เป็นเหตุแห่งการฉ้อโกง ?
ก. โลภะ
ข. โทสะ
ค. โมหะ
ง. ราคะ
๔. อกุศลมูลใด เป็นเหตุแห่งการทะเลาะวิวาท ?
ก. โลภะ
ข. โทสะ
ค. โมหะ
ง. ราคะ
๕. อกุศลมูลใด เป็นเหตุแห่งการหลงงมงาย ?
ก. โลภะ
ข. โทสะ
ค. โมหะ
ง. ราคะ



{getButton} $text={เรื่อง กุศลมูล ๓} $color={#009933}
๑. อโทสะ แก้ปัญหาเรื่องใด ?
ก. ใส่ร้าย
ข. ทุจริต
ค. งมงาย
ง. วิวาท



{getButton} $text={เรื่อง บุญญกิริยาวัตถุ ๓} $color={#009933}
๑. สิ่งเป็นที่ตั้งแห่งการบำเพ็ญบุญ เรียกว่าอะไร ?
ก. บุญกิริยา
ข. ไทยทาน
ค. สังคหวัตถุ
ง. บุญกิริยาวัตถุ
๒. บันใดขั้นแรกในการสร้างบุญ คือข้อใด ?
ก. ปัตติทานมัย
ข. ทานมัย
ค. สีลมัย
ง. ภาวนามัย
๓. ผลบุญย่อมติดตามผู้กระทำ เปรียบเหมือนอะไร ?
ก. มิตรสหาย
ข. เจ้าหนี้
ค. เงา
ง. ลูกหน
๔. การบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย จัดเข้าในข้อใด ?
ก. ทานมัย
ข. สีลมัย
ค. ภาวนามัย
ง. อปจายนมัย
๕. ผู้ถูกความตระหนี่ครอบงำควรประพฤติธรรมใด ?
ก. บริจาคทาน
ข. รักษาศีล
ค. เจริญภาวนา
ง. สำรวมอินทรีย์
๖. ทำบุญแบบประหยัดฝึกหัดกาย ตรงกับข้อใด ?
ก. ทานมัย
ข. สีลมัย
ค. ภาวนามัย
ง. ปัตติทานมัย
๗. อยากสวยงามต้องบำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุข้อใด ?
ก. ให้ทาน
ข. รักษาศีล
ค. เจริญภาวนา
ง. ฟังธรรม
๘. การสวดมนต์ จัดเข้าในการทำบุญประเภทใด ?
ก. ทานมัย
ข. สีลมัย
ค. ภาวนามัย
ง. อนุโมทนามัย



{getButton} $text={เรื่อง อธิปไตย ๓} $color={#009933}
๑. ผู้มีอัตตาธิปไตย มีลักษณะเช่นไร ?
ก. ถือความเห็นของตน
ข. ถือความเห็นพวกพ้อง
ค. ถือความเห็นหมู่ญาติ
ง. ถือความเห็นส่วนรวม
๒. การทำงานมุ่งความถูกต้อง จัดว่ามีอธิปไตยใด ?
ก. อัตตาธิปไตย
ข. โลกาธิปไตย
ค. ธรรมาธิปไตย
ง. ประชาธิปไตย
๓. ผู้มีอัตตาธิปไตย คือถืออะไรเป็นใหญ่ ?
ก. ตนเอง
ข. พวกพ้อง
ค. หมู่ญาติ
ง. บริวาร
๔. ทำดีตามกระแสนิยมเพื่อให้ผู้อื่นยกย่องตรงกับข้อใด ?
ก. อัตตาธิปไตย
ข. โลกาธิปไตย
ค. ธัมมาธิปไตย
ง. ถูกทุกข้อ
๕. เห็นคนส่วนใหญ่ทำบุญจึงทำตาม จัดเข้าในอธิปไตยใด ?
ก. อัตตาธิปไตย
ข. โลกาธิปไตย
ค. ธัมมาธิปไตย
ง. ประชาธิปไตย
๖. ความเป็นใหญ่ ใครๆ ก็ชอบ ถืออะไรเป็นใหญ่จึงจะดี ?
ก. ถือตน
ข. ถือเสียงข้างมาก
ค. ถือประชาชน
ง. ถือธรรมะ
๗. คำว่า ทำตามใจคือไทยแท้ จัดเข้าในอธิปไตยใด ?
ก. อัตตาธิปไตย
ข. โลกาธิปไตย
ค. ธัมมาธิปไตย
ง. ประชาธิปไตย
๘. ประชาธิปไตย จัดเข้าในอธิปไตยใด ?
ก. อัตตาธิปไตย
ข. โลกาธิปไตย
ค. ธัมมาธิปไตย
ง. ถูกทุกข้อ
๙. ประชาธิปไตยที่แท้จริงมุ่งประโยชน์เพื่อใคร ?
ก. คนร่ำรวย
ข. คนยากจน
ค. คนมีอำนาจ
ง. ทุกๆ คน



{getButton} $text={เรื่อง สามัญญลักษณะ ๓} $color={#009933}
๑. ลักษณะที่มีเสมอกันในคนทั่วไป เรียกว่าอะไร ?
ก. อนิจจตา
ข. ทุกขตา
ค. อนัตตตา
ง. สามัญญลักษณะ
๒. ความไม่เที่ยง มีความหมายตรงกับข้อใด ?
ก. อนิจจตา
ข. ทุกขตา
ค. อนัตตตา
ง. ถูกทุกข้อ



{getButton} $text={เรื่อง อคติ ๔} $color={#009933}
๑. จะรักษาความยุติธรรม ต้องเว้นจากอะไร ?
ก. อบายมุข
ข. อกุศล
ค. อคติ
ง. ทุจริต
ง. ภยาคติ
๒. คำว่าค่าของคนอยู่ที่คนของใคร จัดเข้าในอคติข้อใด ?
ก. ฉันทาคติ
ข. โทสาคติ
ค. โมหาคติ
ง. ภยาคติ
ง. ภยาคติ
๓. ลำเอียงเพราะไม่ชอบกัน ชื่อว่ามีอคติใด ?
ก. ฉันทาคติ
ข. โทสาคติ
ค. โมหาคติ
ง. ภยาคติ
ง. ภยาคติ
๔. ความอยุติธรรมจากการไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริงตรงกับข้อใด ?
ก. ฉันทาคติ
ข. โทสาคติ
ค. โมหาคติ
ง. ภยาคติ
๕. ลำเอียงเพราะกลัวหรือเกรงใจ ตรงกับข้อใด ?
ก. ฉันทาคติ
ข. โทสาคติ
ค. โมหาคติ
ง. ภยาคติ ง. ภยาคติ
๑. อำนาจมืด ก่อให้เกิดอคติใด ?
ก. ฉันทาคติ
ข. โทสาคติ
ค. โมหาคติ
ง. ภยาคติ
ง. ภยาคติ
๖. พ่อแม่ตามใจลูกจนเสียคน สงเคราะห์เข้าในอคติใด ?
ก. ฉันทาคติ
ข. โทสาคติ
ค. โมหาคติ
ง. ภยาคติ



{getButton} $text={เรื่อง ปธาน ๔} $color={#009933}
๑. ปหานปธาน ทำหน้าที่อะไร ?
ก. ป้องกันอกุศล
ข. เจริญกุศล
ค. ละอกุศล
ง. รักษากุศล
๒. ภาวนาปธาน ทำหน้าที่อะไร ?
ก. ป้องกันอกุศล
ข. เจริญกุศล
ค. ละอกุศล
ง. รักษากุศล



{getButton} $text={เรื่อง อิทธิบาท ๔} $color={#009933}
๑. อิทธิบาท ๔ กล่าวถึงข้อใดก่อน ?
ก. ฉันทะ
ข. วิริยะ
ค. จิตตะ
ง. วิมังสา
๒. นักเรียนผู้ต้องการจะเรียนหนังสือให้ได้ผลดี จะนำวิริยะมาใช้อย่างไร ?
ก. สร้างความพอใจที่จะเรียน
ข. ใฝ่ใจใคร่รู้สิ่งต่าง ๆ
ค. พิจารณาทบทวนให้เข้าใจ
ง. ขยันศึกษาหาความรู้
๓. นักเรียนผู้ต้องการจะเรียนหนังสือให้ได้ผลดี จะนำวิมังสามาใช้อย่างไร ?
ก. สร้างความพอใจที่จะเรียน
ข. ใฝ่ใจใคร่รู้สิ่งต่าง ๆ
ค. พิจารณาทบทวนให้เข้าใจ
ง. ขยันศึกษาหาความรู้



{getButton} $text={เรื่อง พรหมวิหาร ๔} $color={#009933}
๑. เมื่อเพื่อนร่วมงานได้เลื่อนตำแหน่ง ไม่คิดริษยา พลอย ยินดีกับเขาด้วยชื่อว่าปฏิบัติตามพรหมวิหารธรรมข้อใด ?
ก. เมตตา
ข. กรุณา
ค. มุทิตา
ง. อุเบกขา
๒. ความปรารถนาดีต่อผู้อื่น จัดเป็นพรหมวิหารข้อใด ?
ก. เมตตา
ข. กรุณา
ค. มุทิตา
ง. อุเบกขา
๓. พรหมวิหารใด ควรใช้ต่อบุคคลเมื่อไม่สามารถจะช่วยเหลือได้ ?
ก. เมตตา
ข. กรุณา
ค. มุทิตา
ง. อุเบกขา
๔. ความสงสารปรารถนาให้เขาพ้นทุกข์ จัดเป็นพรหมวิหารข้อใด ?
ก. เมตตา
ข. กรุณา
ค. มุทิตา
ง. อุเบกขา



{getButton} $text={เรื่อง อริยสัจ ๔} $color={#009933}
๑. ไม่สบายกายไม่สบายใจชื่อว่าทุกข์ เพราะเหตุใด ?
ก. ทนได้ยาก
ข. เห็นได้ยาก
ค. รักษาได้ยาก
ง. ติดตามได้ยาก
๒. ทุกข์ในอริยสัจ เกิดจากอะไร ?
ก. กิเลส
ข. กรรม
ค. วิบาก
ง. ตัณหา
๓. ความทะยานอยากจัดเข้าในข้อใด ?
ก. ทุกข์
ข. สมุทัย
ค. นิโรธ
ง. มรรค
๔. ความจริงอันประเสริฐ หมายถึงธรรมใด ?
ก. ปธาน ๔
ข. อิทธิบาท ๔
ค. อริยสัจ ๔
ง. พรหมวิหาร ๔
๕. ความไม่สบายกายไม่สบายใจ เรียกว่าอะไร ?
ก. ทุกข์
ข. สมุทัย
ค. นิโรธ
ง. มรรค
๖. ในอริยสัจ ๔ ข้อใดควรละ ?
ก. ทุกข์
ข. สมุทัย
ค. นิโรธ ง. มรรค
๗. ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ หมายถึงข้อใด ?
ก. ทุกข์
ข. สมุทัย
ค. นิโรธ
ง. มรรค



{getButton} $text={เรื่อง อนุปุพพิกถา ๕} $color={#009933}
๑. เทศนาที่แสดงไปโดยลำดับ เรียกว่าอะไร ?
ก. อนุปุพพีกถา
ข. ทานกถา
ค. สีลกถา
ง. สัคคกถา
๒. คนมีจิตใจตระหนี่ ควรฟังอนุปุพพีกถาข้อใด ?
ก. ทานกถา
ข. สีลกถา
ค. สัคคกถา
ง. กามาทีนวกถา
๓. คนประเภทไหน ควรฟังกามาทีนวกถา ?
ก. คนโลภ
ข. คนโกรธ
ค. คนลุ่มหลง
ง. คนมักมากในกาม



{getButton} $text={คิหิปฏิบัติ - มิตรเทียม ๔} $color={#009933}
๑. มิตรปฏิรูป มีความหมายตรงกับข้อใด ?
ก. เพื่อนไม่แท้
ข. เพื่อนร่วมรุ่น
ค. เพื่อนนักเรียน
ง. เพื่อนบ้าน
๒. คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว เป็นลักษณะของมิตรประเภทใด ?
ก. คนดีแต่พูด
ข. คนปลอกลอก
ค. คนหัวประจบ
ง. คนชวนทำชั่ว
๓. คนดีแต่พูดในมิตรปฏิรูป มีลักษณะเช่นไร ?
ก. พูดมาก
ข. พูดไร้สาระ
ค. ออกปากพึ่งไม่ได้
ง. พูดเพ้อเจ้อ
๔. คนหัวประจบ มีลักษณะเช่นไร ?
ก. ต่อหน้าสรรเสริญ
ข. ชวนเล่นพนัน
ค. พึ่งไม่ได้
ง. ชวนเที่ยวกลางคืน
๕. เพื่อนหน้าไหว้หลังหลอก จัดเข้าในมิตรประเภทใด ?
ก. ปอกลอก
ข. ดีแต่พูด
ค. หัวประจบ
ง. หลอกลวง



{getButton} $text={คิหิปฏิบัติ - มิตรแท้ ๔} $color={#009933}
๑. มิตรแท้ มีลักษณะเช่นไร ?
ก. มีอุปการะ
ข. ร่วมสุขร่วมทุกข์
ค. แนะนำประโยชน์
ง. ถูกทุกข้อ
๒. มิตรมีอุปการะ มีลักษณะเช่นไร ?
ก. ป้องกันภัย
ข. ตายแทนได้
ค. ร่วมสุขร่วมทุกข์
ง. รักษาความลับ
๓. เพื่อนที่ไม่ทิ้งกันในยามมีภัย จัดเข้าในมิตรแท้ประเภทใด ?
ก. มีอุปการะ
ข. ร่วมสุขร่วมทุกข์
ค. แนะประโยชน์
ง. มีความรักใคร่
๔. มิตรแนะประโยชน์ ตรงกับข้อใด ?
ก. ร่วมสุขร่วมทุกข์
ข. รักษาความลับ
ค. บอกทางสวรรค์
ง. ไม่ทิ้งกัน
๕. โต้แย้งคนที่พูดติเตียนเพื่อน เป็นลักษณะของมิตรประเภทใด ?
ก. มีอุปการะ
ข. ร่วมสุขร่วมทุกข์
ค. แนะประโยชน์
ง. มีความรักใคร่



{getButton} $text={คิหิปฏิบัติ - อบายมุข} $color={#009933}
๑. การดื่มน้ำเมา มีโทษอย่างไร ?
ก. ไม่รักษาตัว
ข. ก่อการทะเลาะวิวาท
ค. ถูกใส่ความ
ง. ก่อเวร
๒. การเที่ยวกลางคืน มีโทษอย่างไร ?
ก. เสียทรัพย์
ข. ถูกติเตียน
ง. ชื่อว่าไม่รักษาตัว
ง. ก่อวิวาท
๓. การคบคนชั่วเป็นมิตร ก่อให้เกิดผลอย่างไร ?
ก. ติดการพนัน
ข. เจ้าชู้
ค. ติดสุรา
ง. ถูกทุกข้อ



{getButton} $text={คิหิปฏิบัติ - ทิศ ๖} $color={#009933}
๑. ในทิศ ๖ ศิษย์พึงปฏิบัติต่ออาจารย์อย่างไร ?
ก. ดำรงวงศ์สกุล
ข. เลี้ยงท่านตอบ
ค. เชื่อฟังคำสอน
ง. ไม่ดูหมิ่น
๒. ห้ามทำความชั่วทำความดีเป็นความอนุเคราะห์ของ ?
ก. มารดา-บิดา
ข. ครู-อาจารย์
ค. ภรรยา-สามี
ง. บุตร-ธิดา
๓. ทิศเบื้องหน้า ได้แก่ข้อใด ?
ก. ครูอาจารย์
ข. มารดาบิดา
ค. บุตรภรรยา
ง. มิตรสหาย
๔. ยกย่องเชิดชูครู ไม่เจ้าชู้นอกใจ เป็นหน้าที่ของใคร ?
ก. สามี
ข. ภรรยา
ค. นาย
ง. ครูอาจารย์
๕. ตื่นก่อน นอนทีหลัง เป็นหน้าที่ใครปฏิบัติต่อใคร ?
ก. ลูก-พ่อแม่
ข. ภรรยา-สามี
ค. ศิษย์-ครู
ง. บ่าว-นาย
๖. อุปริมทิส คือทิศเบื้องบน หมายถึงบุคคลในข้อใด ?
ก. บิดามารดา
ข. ครูอาจารย์
ค. สมณพราหมณ์
ง. มิตรสหาย
๗. ห้ามไม่ให้ทำความชั่ว ให้ตั้งอยู่ในความดี เป็นหน้าที่ของใคร ?
ก. ครูอาจารย์
ข. บิดามารดา
ค. สามีภรรยา
ง. บุตรธิดา
๘. ทักขิณทิส คือทิศเบื้องขวา หมายถึงบุคคลในข้อใด ?
ก. บิดามารดา
ข. มิตรสหาย
ค. สมณพราหมณ์
ง. ครูอาจารย์
๑. ยกย่องเชิดชู ไม่เจ้าชู้นอกใจเป็นหน้าที่ใครปฏิบัติต่อใคร ?
ก. สามี-ภรรยา
ข. บิดามารดา-บุตร
ค. นาย-บ่าว
ง. อาจารย์-ศิษย